***ขายด่วน***PANASONIC LUMIX GF-1 สีดำ (เลนส์ 2 ตัว 20 MM F1.7 และ 14-45 MM) ยกกล่อง ประกันศูนย์ไทย อีก 19 เดือน สวยไร้รอยขีดข่วน ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ Liive View ถ่าย VDO แบบ HD ใส่ Flash เพิ่มบนกล้องได้ จอ LCD 3 นิ้ว เมนูไทย

                  ขายกล้อง PANASONIC LUMIX GF-1 สีดำ กล้องโปร ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ คุณภาพสูง มาพร้อมเลนส์ PANASONIC LUMIX 20 มม F 1.7 และเลนส์ซูม 14-45 มม
กล้องสภาพใหม่มาก ๆ ไร้รอยขีดข่วน กล้องประกันศูนย์ PANASONIC ไทย ยกกล่อง คู่มือพร้อมอุปกรณ์ ยังเหลือระยะการรับประกันอีก 19 เดือน หมดประกัน 31 เดือน 7 ปี 2012 โน่นเลย
สบายใจหายห่วงได้เลย แทบไม่ได้ใช้งาน เก็บมากกว่าใช้มาชมและทดสอบการ ทำงานของกล้องก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย ไม่สวยจริงยินดีจ่ายค่ารถที่เดินทางมาลองกล้องให้ด้วยเลย

กล้องมีน้ำหนักเบา มาพร้อมเลนส์ 2 ตัวซื้อมาก็ 3 หมื่นกว่าบาทแล้ว กล้องประกันศุนย์อย่าไปเที่ยบกับพวกประกันร้านที่ถูกกว่าและประกันแค่ 1 ปี ราคาผิดกันนะครับ อย่าเอาไปเทียบกัน
PANASONIC GF 1 ตัวนี้ ใส่ FLASH เสริมเพิ่มด้านบนกล้องได้ มี LIVE VIEW มองภาพก่อนถ่ายได้ ถ่าย VDO แบบ HD

ขอขอบคุณข้อมูลกล้อง PANA GF 1 พร้อมรายละเอียดการทดสอบ จากหนังสือชัดเตอร์โฟโต้ด้วยครับ

กล้องดิจิตอลถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ฟอร์แมต Micro Four Thirds : เมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา ชัตเตอร์ฯ ได้แนะนำกล้องดิจิตอลชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ฟอร์แมต Micro Four Third ใหม่จากพานาโซนิค รุ่น Lumix DMC-GF1 ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ตัวกล้องเบาเพียง 285 กรัมเท่านั้น โดยมีรูปทรงสี่เหลี่ยมดูคล้ายกับกล้องคอมแพค ไม่เหมือนกล้อง DSLR ที่ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ทั่วๆ ไป เนื่องจากออกแบบให้มีการรับภาพจากเซ็นเซอร์โดยตรง การดูภาพต้องดูจากจอมอนิเตอร์ หรือช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับเซ็นเซอร์ภาพ เป็นแบบ Live MOS 4/3 ใหม่ ออกแบบเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีเยี่ยม ทั้งการบันทึกภาพนิ่ง และบันทึกวิดีโอ โดยมีความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล คุณภาพที่ดีเยี่ยมมาจากเซ็นเซอร์ภาพมีขนาดใหญ่ และใช้ ภาพที่ได้มี Noise ต่ำ แม้ถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูง โดยตั้งค่าความไวแสงได้สูงสุดที่ ISO 3200 ในการทดสอบพบว่าภาพที่ได้มีคุณภาพดีเยี่ยม แทบไม่มี Noise ให้เห็นที่ความไวแสง ISO 100 - 400 ส่วนที่ ISO 800 และ 1600 มี Noise ต่ำมากอย่างน่าทึ่ง และยอมรับได้เมื่อใช้ความไวแสงสูงสุด ISO 3200 เมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอล SLR ทั่วๆ ไป แล้ว ต้องยอมรับว่า LUMIX GF1 เรื่อง Noise ต่ำ อยู่ในระดับแถวหน้าทีเดียวครับ

คุณสมบัติเด่น Panasonic GF1
. ขนาดเล็กและเบาที่สุดในโลก!
. เซ็นเซอร์ Live MOS Sensor และ Venus Engine HD ให้ภาพที่มีคุณภาพสูง
. บันทึกวิดีโอ HD Movie แบบ AVCHD Lite
. สร้างสรรค์ภาพด้วย My Color Mode และ Peripherical Defocus Mode
. เลนส์ LUMIX G 20 มม. F1.7 ASPH.
. ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ตามมาตรฐาน Micro Four Thirds System Standard

กล้อง DSLR ออกแบบให้แสงที่ผ่านเลนส์ ไปตกกระทบกับกระจกสะท้อนภาพ หักเหแสงผ่านปริซึมทะเลุออกไปทางช่องมองภาพ การออกแบบลักษณนี้ ช่องระหว่างชิ้นเลนส์ส่วนท้ายกับเซ็นเซอร์ภาพจะห่างกันมาก แต่พานาโซนิค GF1 ออกแบบโดยให้แสงผ่านเลนส์ตรงไปตกกระทบกับเซ็นเซอร์ภาพโดยตรง (เหมือนกล้องดิจิตอลคอมแพค) ทำให้ช่องห่างดังกล่าวสั้นลง ส่งผลให้ออกแบบกล้องที่มีขนาดเล็กลงได้ อีกทั้งเลนส์ Micro 4/3 ยังมีมุมรับภาพสัมพันธ์กับขนาดเซ็นเซอร์ภาพพอดี ทำให้เลนส์มีขนาดเล็กลงด้วย

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไม่ชอบกล้องคอมแพคเพราะการปรับโฟกัสโดยใช้การเปรียบเทียบคอนทราสท์ที่เซ็นเซอร์ภาพ ทำให้โฟกัสช้าไม่ทันใจ ต่างกับกล้อง DSLR ที่มีชุดเซ็นเซอร์โฟกัสแยกต่างหาก โฟกัสได้รวดเร็วกว่า แต่นั่นไม่ใช่ GF1 เพราะกล้องรุ่นนี้สามารถโฟกัสได้แม่นยำ รวดเร็ว ภายใน 0.3 วินาที เร็วที่สุดในกล้องระดับเดียวกันก็ว่าได้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังใช้กล้องดิจิตอล SLR ระดับโปรอยู่ด้วยซ้ำไป และด้วยการออกแบบให้ปรับโฟกัสโดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบนี้ ทำให้มีฟังก์ชั่นต่างๆ ในระบบโฟกัสมากมาย เช่น ที่น่าสนใจมากคือ การโฟกัสแบบ Tracking เพียงแค่เล็งจุดโฟกัสให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการเช่น ใบหน้าคน จากนั้นกดปุ่มชัตเตอร์ เบาๆ เพื่อสั่งให้กล้องปรับโฟกัส เมื่อปล่อยนิ้วแล้วส่ายกล้องไปมา จุดโฟกัสจะเลื่อนไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อให้โฟกัสที่เดิมได้อย่างถูกต้อง หรือแม้ว่าจะเลื่อนกล้องเดินหน้าถอยหลังกล้องก็จะจับโฟกัสอยู่ที่เดิม หรือโฟกัสที่คนแล้วคนวิ่งไปมา กล้องก็จะโฟกัสตามอย่างรวดเร็วโดยจุดโฟกัสสามารถเปลี่ยนไปมาได้ทั่วทั้งจอภาพ และแสดงผลให้เห็นบนจอมอนิเตอร์และนี่คือสิ่งที่ผมเคยวาดฝันมานานว่าจะได้เห็นกล้องที่ทำแบบนี้ได้ ในที่สุดฝันก็เป็นจริง

เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเลือกโฟกัสบบเฉพาะจุด สามารถเลื่อนจุดโฟกัสไปได้ทั่วทั้งภาพ แถมยังเลือกพื้นที่โฟกัสได้ 4 ขนาดตั้งแต่พื้นที่เล็กๆ ไปจนถึงพื้นที่กว้าง (Spot, Normal, L, XL) หรือจะให้กล้องเลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติแบบ 23 พื้นที่ก็ได้ รวมทั้งระบบโฟกัสใบหน้าคนอัตโนมัติก็ทำได้ดีอย่างน่าชมเชยเช่นกัน

การออกแบบ
มาดูเรื่องการออกแบบกันบ้าง อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าตัวกล้อง GF1 มีรูปทรงสี่เหลี่ยมแบนๆ ทำให้การพกพาสะดวกมาก เมื่อคิดถึงกล้องที่มีรูปทรงแบบนี้และถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ชวนให้คิดถึงกล้องไลก้า M ขึ้นมาทันที เป็นกล้องที่มือโปรระดับโลกนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุผลเรื่อง เล็ก เบา คุณภาพดี เชื่อถือได้ เมื่อกันมาดู GF1 หลังจากทดลองใช้นานนับเดือน ผมเริ่มมีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน และคงเหมือนกันอีกหลายๆ คนที่ชอบกล้องแบบนี้

แม้ว่ากล้องจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมแบนๆ แต่ส่วนมือจับมีสันนูนขึ้นมาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้จับกระชับมือดีพอสมควร แม้ว่าจะไม่ดีเท่ากับกล้อง DSLR ที่มีกริปมือจับขนาดใหญ่ก็ตาม
การใช้งานโดยดูภาพจากจอมอนิเตอร์ LCD นั้น ปกติผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะการถือกล้องรู้สึกว่าไม่มั่งคงเหมือนกับการมองดูภาพผ่านช่องมองภาพ อีกทั้งยังดูภาพได้ยากเมื่อต้องถ่ายภาพในที่สว่างมากๆ ในการทดสอบบ่อยครั้งที่ผมใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมาก เพียง 1/8 หรือ 1/15 วินาที ปรากฏว่าภาพที่ได้คมชัดอย่างน่าพอใจ อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับระบบป้องกันภาพสั่นไหว MEGA O.I.S. ของพานาโซนิค ทำให้ถ่ายภาพได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะกลางแจ้ง ในอาคาร ในห้องประชุม หรือสถานที่ต่างๆ ที่มีแสงน้อยโดยไม่จำเป็นต้องใช้แฟลชก็ได้ภาพที่มีรายละเอียดชัดเจนเหมือนที่ตาเห็น

หากต้องการดูภาพจากช่องมอง ก็มีอุปกรณ์เสริมคือ DMW-LVF1 เป็นช่องมองภาพแบบ Live View Finder มีขนาดใหญ่ และแสดงผลทุกอย่างเหมือนการดูภาพจากจอ LCD เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานกลางแจ้งหรือในสภาพแสงที่สว่างมากๆ ซึ่งดูจากจากจอ LCD ได้ยาก และยังปรับมุมให้เงยขึ้นได้ 90 องศา เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพมุมต่ำ

ทางด้านบนมีแป้นหมุนวงกลมสำหรับเลือกโหมดบันทึกภาพแบบต่างๆ เหมือนกับที่ใช้ในกล้อง DSLR ทั่วๆ ไป ใช้งานได้รวดเร็ว ปุ่มปรับและสวิตช์ต่างๆ ทั้งบนตัวกล้องและทางด้านหลังทำได้ดีมาก ดูเรียบร้อยและผลิตอย่างปราณีต โดยเฉพาะแฟลชแบบป๊อปอัพ ทำได้กลมกลืนกับตัวกล้องจนดูเหมือนว่ากล้องรุ่นนี้ไม่มีแฟลชในตัว การทำงานของแฟลชมีหลายโหมด ขึ้นอยู่กับโหมดบันทึกภาพที่เลือกใช้งาน เช่น โหมด iA แฟลชจะทำงานอัตโนมัติอย่างเดียว แต่ถ้าเลือกโหมด P จะมีโหมดแฟลชออโต้ แฟลชแก้ตาแดง ปิดแฟลช เปิดแฟลช และสัมพันธ์แฟลชกับความเร็วชัตเตอร์ต่ำ เป็นต้น

ฟังก์ชั่นการใช้งาน
DMC-GF1 เป็นกล้องที่แสดงภาพบนจอ LCD แบบ Full-time Live View ทำให้เห็นผลของการเปิดรับแสงทันทีเหมือนภาพจริงที่ได้ รวมทั้งผลจากการปรับตั้ง การไวท์ บาลานซ์ การปรับรูรับแสง เพียงกดปุ่มทางด้านหลังกล้องจะเห็นผลเรื่องชัดลึก/ชัดตื้นทันที รวมไปถึงการปรับความเร็วชัตเตอร์สูงหรือต่ำ กล้องจะพรีวิวให้เห็นภาพจริงก่อนล่วงหน้า โดยแสงภาพที่จอ LCD 100% เต็ม และแน่นอนว่าจะแสดงผลจากการปรับสีในโหมด My Color Mode และ Film Mode ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ปรับตั้งกล้องแล้วดูผลที่ได้ ทำให้ได้ภาพดีที่สุดตามที่คุณต้องการ ไม่ต้องเสียเวลาถ่ายภาพใหม่

และด้วยการออกแบบเม้าท์เลนส์ใหม่ระบบ Micro Four Thirds ทำให้เลนส์ LUMIX G ที่ใช้กับเม้าท์เลนส์แบบนี้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่มีคุณภาพสูงเหมาะสมกับขนาดของเซ็นเซอร์ภาพ พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว MEGA O.I.S. (Optical Image Stabilizer) ที่ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดมากยิ่งขึ้น เช่น เลนส์มาโครรุ่น LEICA DG MACRO-ELMARIT 45 มม. F2.8 ASPH., เลนส์คิท 14-45 มม. F3.5-5.6 ASPH. หรือซูมครอบจักรวาลรุ่นใหม่ 14-140 มม. F4-5.8 ASPH. และเทเลซูม 45-200 มม. F4-5.6 ยกเว้นเลนส์ 2 ตัวที่ไม่มีระบบ MEGA O.I.S. คือ 20 มม. F1.7 และซูมมุมกว้าง 7-14 มม. F4 (เลนส์ทุกตัวคูณทางยาวโฟกัสเพิ่ม 2 เท่า)

เม้าท์เลนส์ Micro Four Thirds เมื่อใช้ อะแดปเตอร์ DMW-MA1APP ช่วยให้ GF1 สามารถใช้เลนส์ Four Thirds ได้มีเลนส์ให้เลือกใช้ครบทุกความต้องการ

แฟลชแบบป๊อปอัพ ทำได้กลมกลืนกับตัวกล้องจนดูเหมือนว่ากล้องรุ่นนี้ไม่มีแฟลชในตัว
DMW-LVF1 เป็นช่องมองภาพแบบ Live View Finder มีขนาดใหญ่ และแสดงผลทุกอย่างเหมือนการดูภาพจากจอ LCD

DMC-GF1 มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้มาก มาย เพียงหมุนแป้นวงกลมทางด้านบนเพื่อเลือกโหมดที่ต้องการ เริ่มจากโหมด iA กล้องปรับทุกอย่างให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโฟกัสภาพ วัดแสง ปรับความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ไวท์บาลานซ์ ความไวแสง และอื่นๆ ที่เหมาะสม โดยใช้งานได้ทั้งการบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอ หรือจะเลือกโปรแกรมสำเร็จรูป Scene Mode ให้เหมาะกับภาพในลักษณะต่างๆ มีโปรแกรมให้เลือกถึง 16 แบบ ถ้าต้องการปรับควบคุมกล้องเองก็มีโหมดบันทึกภาพให้ใช้ครบทั้ง P, S, A, M

หากต้องการภาพที่มีคุณภาพสูงสุด ยังมีไฟล์ RAW ให้เลือกใช้ โดยภาพที่ได้จากเซ็นเซอร์ Live MOS จะประมวลผลด้วยซอฟท์แวร์ SILKYPIX® Developer Studio 3.0 SE ที่ให้มาพร้อมกับตัวกล้อง สามารถจัดการและปรับแต่งภาพให้สวยงามได้อย่างที่คุณต้องการ
สำหรับการบันทึกวีดีโอ ให้คุณภาพสูงด้วยความละเอียดแบบ AVCHD หรือ 1280 x 720 พิกเซล ซึ่งให้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุด และเลือกขนาดอื่นๆ ได้อีกคือ QVGA, VGA และ WVGA เพื่อความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน ระยะเวลาในการบันทึกวิดีโอ ขึ้นอยู่กับเมมโมรี่การ์ด SD ที่ใช้ ในการทดสอบ ผมใช้ขนาด 16 GB บันทึกบบ AVCHD Lite หากเลือกภาพเคลื่อนไหวที่คุณภาพระดับ 17 Mbps จะบันทึกได้นานประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเลือกที่ L หรือ 9 Mbps จะบันทึกวิดีโอได้นานขึ้นเป็น 4 ชั่วโมง การบันทึกวีดีโอทำได้ง่ายๆ เพียงหมุนเลือกโหมดการบันทึกแบบวิดีโอ แล้วใช้ปุ่มกดชัตเตอร์ กดเพื่อบันทึกและหยุดการบันทึก โดยเลือกได้ 2 โหมดคือ AVCHD สำหรับเปิดชมจากโทรทัศน์ หรือ Motion JPEG เพื่อใช้ส่งทางอีเมล์หรือเปิดชมจากคอมพิวเตอร์ และเลือกให้กล้องโฟกัสแบบต่อเนื่องเหมือนกล้องวิดีโอทั่วๆ ไปได้ด้วย

การบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง DMC-GF1 คุณสามารถบันทึกได้เหมือนมืออาชีพอย่างง่ายดาย ด้วยฟังก์ชั่นโหมดสีแบบ My Color Mode และโหมดบันทึกสำเร็จรูป Scene Modes อีก 11 แบบ และถ้าบันทึกวิดีโอด้วยโหมด P คุณสามารถปรับเปลี่ยนระยะชัดลึกของวิดีโอได้ หรือปรับเปลี่ยนค่าแสงให้มืดลงหรือสว่างขึ้นตามต้องการ

ทางด้านหลังกล้อง มีปุ่ม Q.MENU สามารถเข้าถึงเมนูต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปรับใช้งานด้วยปุ่มกด 4 ทิศทาง และยังแสดงให้เห็นซ้อนลงบนภาพที่กำลังมองดูอยู่ ใช้งานได้โดยไม่ต้องละสายตาจากภาพ และเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ตามที่คุณต้องการโดยเข้าไปปรับตั้งจากเมนู
ฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ ของพานาโซนิค DMC-GF1 ยังมีอีกมากมาย ใช้งานด้วยปุ่มเมนู ปุ่ม Fn และปุ่มอื่นๆ ที่อยู่ทางด้านหลัง ที่น่าสนใจ เช่น การปรับไวท์บาลานซ์แสดงให้เห็นผลทันที ไม่ว่าจะเลือกแบบออโต้ หรือ ปรับให้ตรงกับสภาพแสงที่ใช้ รวมไปถึงการปรับเลือกค่าอุณหภูมิสี การปรับชิพท์ไวท์บาลานซ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเลือกให้แสดงเส้นไกด์ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน โดยเคลื่อนย้ายเส้นไกด์ไปตรงไหนก็ได้ สำหรับค่าความไวแสง ISO สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้ปรับสูงสุดเท่าไหร่ เหมาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ฟังก์ชั่น Intelligent ISO Control หรือ ISO AUTO ซึ่งกล้องจะปรับความไวแสงให้อัตโนมัติ

การปรับซูมภาพ นอกจากใช้เลนส์ออฟติคัลซูมแล้ว ยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นดิจิตอลซูมได้โดยที่ภาพยังคมชัด เหมือนเดิม เพียงแต่ขนาดภาพเล็กลง เช่น เลือกขนาดไฟล์ที่ 3 ล้านพิกเซล จะซูมภาพเพิ่มได้อีก 2 หรือ 4 เท่า หากใช้เลนส์เทเลโฟโต้ เช่น 45-200 มม. ซูมไปที่ 200 มม. แล้วคูณเพิ่ม 4 เท่า กลายเป็น 800 มม. คูณอีก 2 จากขนาดเซ็นเซอร์ 4/3 เท่ากับว่าได้ทางยาวโฟกัส 1600 มม.!
แม้ว่าจะมีเวลาไม่มากกับกล้อง พานาโซนิค LUMIX DMC-GF1 แต่กล้องรุ่นนี้ได้สร้างความประทับใจให้ผมเป็นอย่างมาก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้หยิบขึ้นมาบันทึกภาพ ด้วยน้ำหนักที่เบา ขนาดที่เล็ก ทำให้เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพอย่างไม่รู้เบื่อ และเชื่อว่าคุณจะต้องรู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อได้ลอง GF1 ด้วยตัวคุณเอง ......SP

การแสดงภาพบนจอ LCD หลังจากบันทึกภาพไปแล้ว เลือกดูได้เฉพาะภาพ หรือภาพพร้อมข้อมูลต่างๆ ที่ใช้ในการบันทึกภาพ
ในโหมดแมนนวล เลือกปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเองทั้งหมดเช่นเดียว และแสดงตัวเลขระบุค่าความเร็วชัตเตอร์ และค่ารูรับแสงบนจอ LCD เปรียบเทียบค่าแสงที่แตกต่างกัน มองดูได้ชัดเจนดีมาก

เมนูหลักทั้งหมดแบ่งออกเป็น 6 หน้า

กล้องดิจิตอลพานาโซนิค LUMIX GF1 ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ โดยความเอื้อเฟื้อจาก บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
............................................................................................................
ข้อมูลจำเพาะ : Panasonic LUMIX GF1
ชนิดกล้อง ดิจิตอล ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้
สื่อบันทึกข้อมูล SD memory card, SDHC memory card
ขนาดเซ็นเซอร์ 17.3 x 13.0 mm (in 4:3 aspect ratio)
เลนส์เม้าท์ Micro Four Thirds (มีอะแดปเตอร์สำหรับเลนส์ Four Thirds)
เซ็นเซอร์ภาพ Live MOS Sensor ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล
ฟิลเตอร์สี Primary color filter
ระบบกำจัดฝุ่น ฟิลเตอร์ Supersonic wave สั่นสะเทือนให้ฝุ่นหลุดออกไป
ฟอร์แมทการบันทึก ตามมาตรฐาน JPEG(DCF, Exif 2.21), RAW, DPOF
ฟอร์แมทวิดีโอ AVCHD Lite / QuickTime Motion JPEG
ขนาดไฟล์ภาพนิ่ง
[4:3] 4000 x 3000(L), 2816 x 2112(M), 2048 x 1536(S)
[3:2] 4000 x 2672(L), 2816 x 1880(M), 2048 x 1360(S)
[16:9] 4000 x 2248(L), 2816 x 1584(M), 1920 x 1080(S)
[1:1] 2992 x 2992(L), 2112 x 2112(M), 1504 x 1504(S)
ขนาดไฟล์วิดีโอ
[4:3] QVGA : 320 x 240, 30fps
VGA : 640 x 480, 30fps, [16:9] WVGA : 848 x 480, 30fps
[HD] 1280 x 720, 30fps
ไฟล์ภาพนิ่ง RAW, RAW+Fine, RAW+Standard, Fine, Standard
โหมดสี sRGB, Adobe RGB
ระบบออโต้โฟกัส Contrast AF system เลือกได้ 3 แบบ AFS/AFC/MF
โหมดออโต้โฟกัส Face detection / AF Tracking / 23-area-focusing / 1-area
ช่วงการโฟกัส EV 0-18 (เลนส์ F3.5, ISO 100) มีไฟช่วยหาโฟกัสในที่มืด
ล็อคโฟกัส มี ใช้ปุ่ม AF/AE LOCK หรือกดปุ่มชัตเตอร์ครึ่งหนึ่ง
ระบบวัดแสง แบ่งพื้นที่ 144 โซน เลือกได้ 3 แบบคือ Intelligent Multiple/Center Weighted/Spot
ช่วงการวัดแสง EV 0-18 (เลนส์ F2.0, ISO 100)
โหมดบันทึกภาพ โปรแกรมอัตโนมัติ, ออโต้ความเร็วชัตเตอร์, ออโต้รูรับแสง, แมนนวล
ความไวแสง Auto / 100 / 200 / 400 / 800 / 1600 / 3200 / Intelligent ISO
ถ่ายภาพคร่อม 3, 5, 7 เฟรม แบ่งละเอียดขั้นละ 1/3 หรือ 2/3 EV ( ±2 EV )
ไวท์บาลานซ์ Auto / Daylight / Cloudy / Shade / Halogen / Flash /
White Set 1,2 / ปรับตั้งอุณหภูมิสีเอง
ชัตเตอร์ 1/4000 - 60 วินาที และ Bulb (สูงสุด 4 นาที)
โหมด MY COLOR Expressive/Retro/Pure/Elegant/Monochrome/Dynamic Art/Silhouette/Custom
ถ่ายภาพต่อเนื่อง 3 หรือ 2 เฟรม/วินาที
แฟลชในตัว แบบป๊อปอัพ ทำงานระบบ TTL ไกด์นัมเบอร์ 6
โหมดแฟลช ออโต้, ออโต้แก้ตาแดง, เปิดแฟลช, ปิดแฟลช, สัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
แฟลชภายนอก ใช้กับฮอทชูแฟลช ทำงานระบบ TTL Auto ใช้ร่วมกับแฟลชรุ่น FL220/FL360/FL500
จอมอนิเตอร์ Low temperature Polycrystalline TFT LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 460,000 พิกเซลมองเห็นภาพ 100% ปรับความสว่างและสีจอ LCD ได้
ช่องมองภาพ มี รุ่น DMW-LVF1 ปรับเงยขึ้นได้ 90 องศา (อุปกรณ์เสริม)
ฟิล์มโหมด Standard / Dynamic / Nature / Smooth / Nostalgic / Vibrant และภาพขาวดำ
การเชื่อมต่อ miniHDMI Type C Video: Auto / 1080i / 720p / 480p, USB 2.0 High Speed
แบตเตอรี่ แบตเตอรี่แพคลิเธี่ยมไอออน ถ่ายภาพได้ประมาณ 380 ภาพ
ขนาด/น้ำหนัก 119.0 x 71.0 x 36.3 มม. / 285 กรัม