FUJI S 6500 fd FACE DETECTION โฟกัสให้หน้าคมชัดตลอดเวลา ความไวสูง ISO 3200 ซูปเปอร์ซูมแบบใช้มือหมุนซูม 28-300 มม จอ LCD 2.5 นิ้ว ถ่ายมาโครได้ 1 ซม เหมาะถ่ายสิ่งของเล็ก ๆ เช่นพระเครือง เครื่องประดับ หมุนซูมภาพได้แบบแมลนวล รวจเร็วทันใจกว่า

หน้าแรก » กล้อง และ อุปกรณ์ถ่ายภาพ » กล้องดิจิตอล

FUJI S 6500 fd FACE DETECTION โฟกัสให้หน้าคมชัดตลอดเวลา ความไวสูง ISO 3200 ซูปเปอร์ซูมแบบใช้มือหมุนซูม 28-300 มม จอ LCD 2.5 นิ้ว ถ่ายมาโครได้ 1 ซม เหมาะถ่ายสิ่งของเล็ก ๆ เช่นพระเครือง เครื่องประดับ หมุนซูมภาพได้แบบแมลนวล รวจเร็วทันใจกว่า


  กล้อง DIGITLAL รุ่นยอดนิยม FUJI S 6500 สภาพสวยสุด ๆ ใช้งานน้อย ไม่มีปัญหาใด ๆ กล้องรุ่นนี้ โดดเด่นด้วย ระบบซูมแบบแมลนวล ใช้มือหมุนได้แบบ กล้อง D-SLR รวจเร็วกว่า กล้องคอมแพ็คทั่วไปมาก แถมยังถ่ายมาโครได้เพียง 1 ซม เท่านั้น เหมาะที่จะนำไปถ่ายภาพ สิ่งของเล็ก ๆ เช่นพระเครื่อง เครื่องประดับต่าง ๆ แถมเลนส์ที่มีมาให้เป็นเลนส์ 28-300 มม เลนส์มุม   กว้าง ถ่ายภาพในที่แคบๆ ได้เปรียบกว่ากล้องทั่วไป และดึงซูมได้ยาวกว่าถึง 300 มม ถ่ายภาพ นก สัตว์ป่า หรือจะถ่ายภาพบุคคลดึงซูมที่ 300 มม ก็จะได้ภาพที่มีฉากหลังเบรอ กล้องดิจิตอลระดับคอนซูเมอร์ ในกลุ่มกล้องอุลตร้าซูมหรือกล้องที่มาพร้อมกับเลนส์ซูมมากกว่า 10X ขึ้นไปนั้นต้องยอมรับว่าฟูจิทำกล้องในรูปแบบนี้ได้โดดเด่นมาก และกล้องในซีรีส์นี้ ที่ผ่านมาทั้ง 3 รุ่น ต่างก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้และเป็นกล้องที่อยู่ในระดับแนะนำจากผู้ทดสอบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ   เป็นรุ่น S5000 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ ตามมาด้วย S5500 และ S5600 ด้วยเหตุผลสำคัญคือให้คุณภาพดีใช้งานสนุกด้วยช่วงซูมที่มากกว่า และมีความคุ้มค่า คุ้มราคาเป็นอย่างดีกล้องในซีรีส์นี้รุ่นล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานนี้ คือ รุ่น S6500 fd ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อันก้าวหน้าคือ fd หรือ FACE DETECTION และความไวแสงที่สูงถึง ISO 3200 พร้อมกับติดเลนส์ 28-300 มม.(10.7X) ใช้งานสนุกกว่าด้วยช่วงมุมกว้างที่มากขึ้น และแน่นอนว่า S6500 fd รุ่นนี้ยังคงมา   พร้อมกับคุณสมบัติเด่นเฉพาะอื่นๆ ของฟูจิเช่นเดิม ทั้งโหมด NATURAL LIGHT ANDWITH FLASH และ PICTURE STABILIZATION ซึ่งคุณสมบัติในเบื้องต้นนี้ต้องถือว่า S6500 fd ตัวนี้น่าสนใจมากทีเดียว การออกแบบภายนอก รูปร่างหน้าตาของ S6500 fd ค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้าอยู่ไม่น้อย การดีไซน์เน้นความโค้งมน และการจับถือใช้งานที่สะดวกขึ้นตัวกล้องโดยรวมมีส่วนคล้ายรุ่น S9500 (ปัจจุบันมีรุ่น S9600 ด้วย) โดยเฉพาะส่วนของเลนส์   นั้นเกือบเหมือนกันทีเดียว ช่วงทางยาวโฟกัสเท่ากันคือ 28-300 มม.(ซูม10.7X) พร้อมมีวงแหวนแมนนวลโฟกัสอยู่ด้านใน เพียงแต่เลนส์ใน S6500 fd ตัวนี้มีขนาดย่อมลงมาหน่อยเท่านั้น กริปจับหุ้มด้วยยางลายหนังมีความหนืด และเกาะนิ้วดีมากๆ ยิ่งเมื่อรวมกับร่องสันที่ทำไว้รับกับนิ้วมือด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ S6500 fd ตัวนี้จับได้กระชับมืออย่างยิ่ง เรียกว่าไม่แพ้การจับถือกล้อง D-   SLR เลยก็ว่าได้ หรืออาจจะดีกว่ากล้อง D-SLR บางรุ่นด้วยซ้ำไป ปุ่มชัตเตอร์และสวิทซ์เปิด-ปิด ยังคงสไตล์เดิม โดยมีโหมด PB คั่น อยู่ระหว่างตำแหน่ง OFF กับถ่ายภาพ แป้นโหมดเปลี่ยนมาใช้แป้นขนาดใหญ่วางเยื้องมาทางด้านหลังเล็กน้อย และตัวแป้นมีความหนาและสูงกว่าพื้นผิวด้านบนของบอดี้ ทำให้การหมุนใช้งานทำได้อย่างสะดวก เพียงแต่ขาดสวิทซ์ล๊อกแป้นโหมด   ทำให้บางครั้งอาจเผลอเปลี่ยนโหมดโดยไม่ตั้งใจ แต่ฟูจิก็มีระบบเตือนโดยจะแสดงโหมดที่ใช้ให้ทราบบนจอ LCD หรือ EVF แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ต้องไม่สั่งปิดการแสดงข้อมูลที่ปุ่ม DISPLAY ด้านบนเป็นแฟลช POP-UP ออกแบบใหม่โค้งมนสวยงามและยกตัวขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามโหมดแฟลชที่เลือก หากเลือกโหมดปิดแฟลชการยกตัวอัตโนมัติก็จะถูกยกเลิกมุกกระจายแสงแฟลชครอบคลุมเลนส์ 28 มม. ได้อย่างเต็มพื้นที่และเมื่อใช้กับคอนเวอร์ชั่นเลนส์มุมกว้างแสงแฟลชก็   ยังครอบคลุมพื้นที่ได้ถึงช่วงเลนส์ประมาณ 20 มม. ด้านข้างซ้ายที่เห็นเป็นปุ่มและแกนสวิทซ์นั้นใช้ปรับเลือกโหมดโฟกัส สามารถเลือกได้ทั้ง AF-C, AF-S และ MF และยังใช้เป็นปุ่มเลื่อนพื้นที่หรือกรอบโฟกัสด้วยเมื่อเลือกโหมด AF แบบ AREA ใกล้ๆ กันเป็นช่องใส่การ์ด XD-PICTURE พร้อมช่องใส่สำโพงในตัว ด้านหลังออกแบบได้ดีช่องมองภาพ EVF ปร้บแก้สายตาได้ และใช้จอ LCD มอนิเตอร์ขนาดใหญ่ถึง 2.5 นิ้ว ความละเอียด 235,000 พิกเซล ปุ่มสัญลักษณ์รูปคนที่   อยู่มุมขวาของจอ LCD คือปุ่มเปิดระบบ FD หรือ FACE DETECTION ถัดลงมาก็เป็นปุ่มเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ เหมือนที่เคยมีในกล้องของฟูจิรุ่นก่อนหน้า รวมทั้งปุ่ม F หรือ FOTO MODE แบตเตอรี่ ใช้ AA 4 ก้อนใส่ทางด้านล่างใต้กริปจับโดยรวมของการออกแบบ S6500 fd ตัวนี้ถือว่าทำได้ดีมาก น้ำหนักตัวกล้องรวมแบตเตอรี่ 4 ก้อน (AA) กำลังเหมาะมือ จับถือได้กระชับเพราะตัวกริปออกแบบมาได้ดี ปุ่มควบคุมต่างๆ วางอยู่ตำแหน่งที่ต้องถือว่าลงตัวมาก สามารถ   ปรับความคุ้นเคยและใช้งานได้คล่องในระยะเวลาไม่นาน จุดเด่นคือ ช่วงซูม 28-300 มม./2.8-4.9 ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 58 มม. สามารถถ่ายภาพในมุมกว้างได้ดีกว่ากล้องหลายๆรุ่น ที่มักจะเริ่มต้นที่ช่วงซูม 35 มม. หรือถ้าเริ่มต้นที่ 28 มม. ก็มักจะมีซูมช่วงปลายไม่มาก ซึ่งจุดนี้กล้องจากฟูจิฟิล์มซีรี่ส์ S ทำได้เหนือกว่าอย่างค่อนข้างชัดเจน งานการผลิตและวัสดุที่ใช้ดี งานการประกอบปราณีต เลนส์ซูมปรับได้ราบรื่น นุ่มนวล แป้นโหมดน้ำหนักหมุนกำลังดี ปุ่มชัตเตอร์ตอบสนอง   ไว และที่สำคัญจอ LCD ให้ภาพที่สว่างและชัดเจนดีมาก และยังสามารถมองในมุมต่างๆ ได้กว้างโดยที่ภาพยังคงคมชัดเหมือนการมองตรงๆ ถ้ามีฮอทชูสำหรับใช้แฟลชภายนอก ได้อีกก็จะเยี่ยมมาก ระบบการทำงาน 1. FACE DETECTION(fd) S6500 fd ได้นำระบบ FACE DETECTION ซึ่งเป็นระบบใหม่มาใช้โดยกล้องจะทำการตรวจจับโฟกัสที่ใบหน้าเป็นหลักเมื่อเปิดใช้ระบบนี้ ไม่ว่าภาพของใบหน้านั้นจะอยู่ส่วนใดบนจอรับภาพ หรือจอ LCD ก็ตาม จึงมั่นใจ   ได้ว่าจะได้ภาพใบหน้าที่คมชัดและอยู่ในโฟกัสอย่างที่ต้องการระบบ fd ทำงานด้วยชิฟ IC ร่วมกับเทคโนโลยี IMAGE INTELLIGENCE โดยกล้องสามารถที่จะตรวจจับและโฟกัสใบหน้าได้อย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อเล็งภาพไปที่บุคคลโดยกล้องจะแสดงกรอบสีเขียวบริเวณใบหน้าของภาพบุคคลที่เล็งกล้องไป ซึ่งหมายถึงเป็นจุดโฟกัสที่กล้องตรวจจับได้ด้วย และถ้าหากในภาพมีบุคคล มากกว่า1คน ระบบ fd จะตรวจจับใบหน้าหลักเป็นจุดโฟกัส (แสดงด้วยกรอบสี   เขียว) และจับใบหน้าอื่นๆ เป็น SECONDARY SUBJECT (แสดงด้วยกรอบสีขาว) เพื่อคำนวณหาค่าการเปิดรับแสงที่เหมาะสม โดยระบบ fd นี้จะสามารถทำการตรวจจับใบหน้าของภาพบุคคลได้พร้อมกันมากที่สุด 10 ใบหน้า (นับรวมกับกรอบสีเขียวซึ่งเป็นจุดโฟกัส) โดยใช้เวลาเพียง 0.05 วินาทีเท่านั้น ระบบ fd สามารถใช้งานร่วมกับโหมดถ่ายภาพได้ทุกโหมดทั้งโหมด P, A, S, M และโหมดโปรแกรมรูปภาพ ยกเว้นบางโหมดที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพเฉพาะทาง   เช่น โหมดภาพทิวทัศน์, ภาพพลุ, ภาพกีฬา เป็นต้น. ระบบ fd สามารถสั่งปิดหรือเปิดได้ และระบบจะทำงานเฉพาะเมื่อตั้งโหมด AF ไว้ที่ AF-S เท่านั้น และเมื่อเปิดใช้ระบบ fd โหมดวัดแสงและการเลื่อนพื้นที่กรอบ AF จะไม่สามารถเลือกได้ และหากเปลี่ยนไปใช้โหมด AF-C หรือโหมด MF ระบบ fd จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ 2. ความไวแสงสูง ISO 3200 S6500 fd สามารถปรับความไวแสงได้สูงสุดถึง ISO 3200 จากความไวแสงเริ่มต้น ISO 100 เช่นเดียวกับกล้องรุ่น   ใหม่ๆ จากฟูจิ และด้วยเทคโนโลยี RP PRO CESSOR II ที่นอกจากจะช่วยให้สามารถปรับความไวแสงได้สูงแล้ว ยังประมวลผลและแสดงภาพได้เร็วรวมทั้งยังมีการเกิด NOICE ที่ต่ำแม้จะใช้ความไวแสงสูงถึง ISO 1600 หรือ ISO 3200 ภาพที่ได้จะยังคงความสดใสและสีสันที่อิ่มตัวใกล้เคียงกับการใช้ความไวแสงมาตรฐาน 3. เซ็นเซอร์,ขนาดไฟล์ภาพและระดับคุณภาพ S6500 fd ใช้เซ็นเซอร์ SUPER CCD HR ขนาด 1/1.7 นิ้ว ความละเอียด 6.3 ล้านพิกเซล (EFFECTIVE   PIXELS) ให้ภาพขนาดใหญ่ที่สุด (ภาพนิ่ง) ที่ 2848x2136 พิกเซล ในอัตราส่วน 3:4 และ 3024X2016 พิกเซล (3:2) ส่วนขนาดไฟล์ภาพรองเลือกได้ 3 ขนาดคือ 3M(2048x1536), 2M(1600x1200) และ 0.3M (640x480 หรือ VGA) เลือกระดับคุณภพในฟอร์แมท JPEG ได้ 2 ระดับคือ FINE และ NORMAL เฉพาะขนาดไฟล์ภาพ 6M (2848x2136) และสามารถเลือกถ่ายภาพในแบบ CCD-RAW ได้โดยเข้าไปเลือกในเมนู SET-UP สำหรับไฟล์ Movie เลือกได้ 2 ขนาดคือ 640x480 และ 320x240 ความเร็วในการบันทึกภาพ (FRAME RATE) 30 เฟรม/วินาที พร้อม   บันทึกเสียงจัดเก็บไฟล์ในฟอร์แมท AV1 (MOTION JPEG) จึงสะดวกต่อการเขียนแผ่น VCD หรือ DVD ได้โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ซึ่งในชุดจะมีซอร์ฟแวร์ IMAGE MIXER VCD2 LE FOR FINEPIX สำหรับสร้าง CD หรือ DVD แถมมาให้ด้วย 4. โหมดและฟังก์ชั่นการทำงาน โหมดถ่ายภาพของ S6500 fd มีให้ครบเช่นเดียวกับกล้อง D-SLR คือมีทั้งโหมดถ่ายภาพและสร้างสรรค์หรือ CREATEVE MODE คือโหมด P, A, S, M และยังมีโหมดถ่ายภาพแบบง่ายๆ หรือโปรแกรม   รูปภาพ (SP) อีก 10 โหมด โดยโหมดถ่ายภาพบุคคล,ภาพทิวทัศน์ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้บ่อยกว่าถูกแยกออกมาต่างหากอยู่บนแป้นโหมดเช่นเดียวกับโหมด AUTO และที่ขาดไม่ได้เลยในกล้องฟูจิรุ่นหลังๆ คือ โหมด NATURAL LIGHT (N) และโหมด PICTURE STABILIZER หรือ ANTI BLUR ป้องกันภาพสั่นไหวโดยในโหมด NATURAL LIGHT (N)นั้นกล้องจะวัดแสงขึ้นตามสภาพแสงเพื่อให้ได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ใช้แฟลช แต่หากต้องการใช้แฟลชจะต้อง   เลือกจากเมนูโดยเลือก NATURAL AND FLASH กล้องจะบันทึกภาพให้ 2 ช๊อตต่อการกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว โดยภาพแรกจะเป็นการบันทึกตามสภาพแสงโดยไม่ใช้แฟลชและภาพที่สองกล้องจะ FILL แฟลชออกไปด้วย โดยความไวแสง (ISO) จะถูกปรับให้เหมาะสมกับสภาพแสงโดยอัตโนมัติ ภาพที่ไม่ใช้แฟลช ISO อาจปรับชิฟท์ได้สูงถึง ISO 3200 ส่วนภาพที่ใช้แฟลช ISO จะปรับชิฟท์ได้สูงสุดที่ ISO 800 ทั้งนี้เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญของการบันทึกภาพว่า   ใช้แฟลชหรือไม่ โดยการถ่ายภาพจะทำต่อเนื่องอย่างรวดเร็วมากจนภาพที่บันทึกมา ทั้ง 2 ภาพแทบไม่เห็นความแตกต่างของแอคชั่นเลย หากไม่ใช่การถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วมากๆ หรือมีการขยับหรือเปลี่ยนตำแหน่งกล้อง ส่วนโหมด PICTURE STABILIZATION หรือ ANTI BLUR นั้น กล้องจะปรับชิฟท์ ISO ให้สูงขึ้นตามสภาพแสง เพื่อให้ได้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงพอที่จะจับภาพให้หยุดนิ่งซึ่งด้วยการปรับชิฟท์ ISO นี้จึงสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งการสั่นไหวจากมือของผู้   ถ่ายเองและการเคลื่อนที่ของภาพหรือวัตถุที่จะถ่ายนอกจากนี้โหมด ANTI BLUR ยังสามารถให้ร่วมกับแฟลชได้ด้วย จึงยิ่งมั่นใจว่าจะได้ภาพที่คมชัดหยุดนิ่งอย่างแน่นอน ความเร็วชัตเตอร์ในโหมด M ปรับได้ 30-1/4000 วินาที ซึ่งเป็นความเร็วชัตเตอร์ในช่วงเดียวกับกล้อง SLR หลายๆรุ่นเลยทีเดียว เพียงแต่ไม่มีชัตเตอร์ B หรือ BULB ให้เท่านั้น ส่วนโหมดอื่นๆ ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุด จะไม่เท่ากันคือตั้งแต่ 1/4-4 วินาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งานในแต่ละ   โหมด สำหรับรูรับแสงปรับได้แคบสุด F/11 ในโหมด M ส่วนโหมดอื่นๆ ปรับแคบสุดได้ที่ F/8 นับว่า FINEPIX S6500 fd ตัวนี้ออกแบบการทำงานในโหมด M ได้ยืดหยุ่นมากทีเดียว ส่วนการชดเชยแสงทำได้ +/2.0 EV ซึ่งเมื่อกดปุ่ม +/- กล้องจะแสดง HISTOGRAM บนจอ LCD ให้เห็นด้วยโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องเลือกได้ 3 แบบคือ TOP 3, FINAL 3 และ LONG PIRIOD โดยแบบ TOP 3 กล้องจะบันทึกภาพต่อเนื่องให้ 3 ภาพ ความเร็ว 3 เฟรม/วินาที ส่วน FINAL 3 กล้องจะ   ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 3 เฟรม/วินาที ไปเรื่อยๆ แต่กล้องจะบันทึกไฟล์ เฉพาะ 3 เฟรมสุดท้ายลงการ์ดหรือหน่วยความจำในตัว (ประมาณ 10 MB) เท่านั้น สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ LONG PIRIOD นั้นเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่อง และบันทึกภาพลงการ์ดได้ไม่จำกัดจำนวนจนกว่าจะเต็มความจุของหน่วยความจำ แต่ความเร็วในการถ่ายภาพอัตโนมัติ 3 เฟรม ซึ่งเป็นการถ่ายแบบช๊อตต่อช๊อต (ไม่ใช่การก๊อปปี้ไฟล์) ลำดัลการถ่ายภาพคร่อมคือ พอดี-โอเวอร์-อัน   เดอร์ ความต่างของการเปิดรับแสงเลือกได้ +/- 1,2/3 หรือ 1/3 EV จากเมนู ระบบวัดแสงผ่านเลนส์ 256 ส่วนมี 3 โหมดมาตรฐานคือ MULTI หรือแบ่งพื้นที่, เฉลี่ยหนักกลางและเฉพาะจุด แต่หากเลือกการทำงานของระบบ fd หรือ FACE DETECTION แล้วจะไม่สามารถเลือกโหมดวัสดแสงได้ WM (WHITE BALANCE) มีให้เลือกครบตั้งแต่ ออโต้,แมนนวลหรือตามชนิดของแสง 6 ชนิด (แสงแดด, แสงมีเมฆ, แสงทังสเตน, แสงฟลูออเรสเซนต์ 3 แบบ) และคัสตอมหรือตั้ง   WB เอง ฟังก์ชั่น HIGH-SPEED SHOOTING ผู้ใช้จะเลือกให้ทำงานหรือไม่ก็ได้โดยฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้การทำงานตั้งแต่การหาโฟกัสจนถึงถ่ายภาพเร็วขึ้น โดยจะลดช่วงเวลาของการหาโฟกัส (AF) ลงประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งฟังก์ชั่น HIGH SPEED SHOOTING นี้จะทำงานในช่วงตั้งแต่ 1 เมตร ขึ้นไป ดังนั้นหากใช้ถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ใกล้กว่า 1 เมตร เช่นภาพมาโคลสอัส ฟังก์ชั่นนี้อาจไม่ช่วยให้การทำงานของการหาโฟกัสเร็วขึ้น โหมด AF เลือกการทำงานได้ทั้งแบบโฟกัสทีละ   ภาพ (AF-S) หรือโฟกัสต่อเนื่อง (AF-C) และยังเลือกโหมด AF หรือ พื้นที่การหาโฟกัสได้ 3 แบบคือ เฉพาะกรอบกลาง,มัลติ หรือพื้นที่กว้างโดยกล้องจะเลือกให้เองโดยอัตโนมัติและAREA หรือเลือกกรอบโฟกัสเองได้ 49 ตำแหน่งทั่วจอ LCD โดยการใช้งานจะต้องกดปุ่ม ONE-TOUCH AF ด้านข้างค้างไว้ กรอบโฟกัส จะเปลี่ยนเป็นมีลูกศรทั้ง 4 ด้าน จากนั้นใช้แป้น 4 ทิศทางในการเลือกกรอบโฟกัสแต่หากเปิดระบบ fd การเลือกรอบโฟกัส (AF MODE) จะถูกยกเลิก   โดยอัตโนมัติ การเลือกกรอบโฟกัสจะทำงานได้ทั้ง 3แบบเมื่ออยู่ในโหมด AF-3 แบบเมื่ออยู่ในโหมด AF-S เท่านั้น หากใช้โหมด AF-C กรอบโฟกัสจะเป็นเฉพาะกรอบกลางเพียงกรอบเดียว โหมดมาโคร โฟกัสได้ใกล้สุด 10 ซม. ที่ช่วง 28 มม. และ 90 ซม. ที่ช่วงเทเลโฟโต้ (300 มม.) ส่วนโหมดซุปเปอร์มาโครโฟกัสได้ใกล้สุด 1 ซม. ถึง 1 เมตร ที่ช่วงมุมกว้าง (28 หรือ 35 มม. เท่านั้น) โหมดแฟลชมีให้ใช้ครบทั้ง ออโต้แฟลช,แฟลชแก้ตาแดง,เปิดแฟลช, ปิดแฟลช,SLOW   SYNC, พร้อมแก้ตาแดง แต่ทั้งนี้จำนวนโหมดแฟลชจะขึ้นอยู่กับโหมดถ่ายภาพที่เลือกใช้ด้วย เช่นหากใช้โหมด M จะไม่มีโหมด SLOW SYNC เป็นต้น การชดเชยแสงแฟลชให้เข้าไปเลือกในเมนู ชดเชยได้ +/- 2/3 EV ระบบ INTELLIGENT FLASH ทำงานสัมพันธ์กับระบบ fd นอกจากนี้ในปุ่ม F (PHOTO MODE) ยังสามารถเลือกโทนสีของไฟล์ฟภาพได้ 3 แบบเช่นเดิม คือมาตรฐาน, F-CHROME หรือแบบฟีล์มสไลด์และ F-B2W ภาพขาว-ดำ 5. PLAYBACK (PB)   และ SET-UP การ PB ของ S6500 fd ยังคงใช้รูปแบบเดียวกับกล้องรุ่นหลังๆ ของฟูจิการซูมขยายภาพและการเลือกดูส่วนต่างๆ ของภาพทำได้เร็ว สามารถเลือกให้แสดงภาพได้ทั้งแบบเต็มเฟลม,THUMBNAIL 9 ภาพ และตามวันที่ ที่บันทึกภาพได้ ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาภาพทำได้สะดวกยิ่งขึ้น และจากการที่ S6500 fd มีระบบ FACE DETECTION จึงทำให้ภาพที่ถ่ายและ   เปิดระบบ fd สามารถ PLAYBLACK แบบซูมขยายภาพเฉพาะใบหน้าบุคคลได้อย่างรวดเร็วโดยการกดปุ่ม fd เท่านั้น และการซูมขยายจะเลื่อนลำดับของใบหน้าบุคคลในภาพให้โดยอัตโนมัติ (กรณีในภาพมีภาพบุคคลมากกว่า 1คน) ตามจำนวนกรอบ fd ทั้งกรอบสีเขียวและกรอบสีขาว (PRIMARY และ SECONDARY SUBJECT) โดยผู้ใช้เพียงแค่กดปุ่ม fd ไปเรื่อยๆเท่านั้น (ในโหมด PLAYBACK) นอกจากนี้ยังสามารถเลือกให้กล้องแสดงภาพแบบสไลด์โชว์เฉพาะไฟล์   ภาพที่บันทึกด้วยระบบ fd ได้ โดยกล้องจะซูมขยายภาพขึ้นมาแสดงให้เห็นโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องทำการขยายภาพนั้นก่อนแต่อย่างใด และยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นตัดส่วนหรือ TRIMMING ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่ม fd 1เท่านั้นภาพในส่วนใบหน้าจะถูกซูมขยายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่จำเป็นในเมนู PB ก็มีให้ครบไม่ว่าจะเป็นล็อกภาพกับลบ (PROTECT), การ   บันทึกเสียงติดไปกับไฟล์ภาพ,การปรับพลิกภาพการลบไฟล์, สั่งDPOF พร้อมบันทึกวันที่ และสั่งก๊อปปี้ไฟล์ภาพจากหน่วยความจำในตัวไปยังการ์ดหรือกลับกันได้ การแสดงข้อมูลให้กดปุ่มชดเชยแสงค้างไว้ แสดงข้อมูลที่จำเป็นได้ครบพร้อมแสดง HISTOGRAM และเตือน HIGHLIGHT พร้อมทั้งบอกค่า ISO ที่ใช้จริง แม้ขณะถ่ายภาพจะเป็นค่า AUTO ISO ก็ตาม สำหรับเมนู SET-UP ซึ่งเป็นเมนูสำหรับการปรับตั้งการทำงานพื้นฐานทั่วไป ก็มีให้ครบ รวมทั้งลูกเล่นต่างๆ ของ   เสียงการทำงาน ตั้งแวลาวันที่ รวมทั้งหากต้องการถ่ายภาพไฟล์ RAW ก็ต้องมาเลือกจากเมนู SET-UP นี้ ที่น่าสนใจคือสามารถปรับความเร็วของการแสดงภาพบนจอ LCD และ EVF ได้ 2 ระดับคือ 30 หรือ 60 เฟลม/วินาที รวมทั้งยังคงมีฟังก์ชั่น DISCHARGE สำหรับคายประจุในแบตเตอรี่ซึ่งมีเฉพาะในกล้องฟูจิเท่านั้น ผลการทดลองการใช้งาน การทดสอบกล้อง FINEPIX S6500 fd ในครังนี้ผมได้รับอุปกรณ์เสริมมาอีก 1 ชิ้นคือ WIDE CONVERSION LENS WL-   FXS6 เปลี่ยนทางยาวโฟกัสของเลนส์ให้กว้างขึ้น 0.8X ซึ่งก็จะทำให้ S6500 fd ตัวนี้มีเลนส์ที่กว้างขึ้นถึง 22.4 มม. เมื่อซูมเลนส์ไปที่ 28 มม. ซึ่งถือว่ากว้างสะใจดีทีเดียวไฟล์ภาพส่วนมากที่ถ่ายมาเป็นฟอร์แมท JPEG FINE ที่ขนาด 6M มีบางภาพเท่านั้นที่ถ่ายมาในแบบ CCD-RAW โดยการเปิดไฟล์ RAW ของ S6500 fd จะต้องใช้ซอฟท์แวร์ RAW FILE CONVERTER LE VER 1.1 ของฟูจิเพราะในขณะที่ทดสอบนี้ยังไม่มี PLUG-IN ของ THIRE DARTY ใดเปิดไฟล์ RAW   ของ S6500 fd ได้ ในส่วนของการจับถือต้องยอมรับเลยครับว่า จัดได้ถนัดกระชับมือดีมากการออกแบบกริปจับทำได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ความรู้สึกแทบไม่แตกต่างจากการใช้กล้อง D-SLR เลยทีเดียว รวมไปถึงการออกแบบเลนส์แบบแมนนวล ซูมแล้ววงแหวนแมนนวลโฟกัสทำได้ดี ใช้งานได้ง่ายและคล้ายกล้อง D-SLR ปุ่มชัตเตอร์ตอบสนองได้ไวมาก มีช่วง TIME LAG น้อยยิ่งหากเปิดระบบ HIGH SPEED SHOOTING ก็จะยิ่งทำให้การทำงานและการหาโฟกัสเร็วขึ้น   การวางตำแหน่งของแป้นและปุ่มต่างๆ ลงตัว ใช้งานได้สะดวกจอ LCD และช่องมองภาพ EVF ให้ภาพที่ดีคมชัดสีสันสดใสดูสบายตา ความเร็วในการทำงานคือจุดเด่นของกล้องจากฟูจิ เลยก็ว่าได้ตั้งแต่เปิดสวิทซ์กล้องจะพร้อมถ่ายภาพแทบจะทันที ยิ่งหากเป็นการแสดงภาพหลังกดชัตเตอร์ไปแล้วนั้น S6500 fd ตัวนี้แสดงภาพได้อย่างทันทีโดยไม่ต้องรอแม้แต่เศษวินาที ซึ่งทั้งนี้เป็นผลมาจากระบบประมวลผล RP II หรือ REAL PHOTO PROCESSOR II นั่นเอง ระบบ fd ทำงานได้อย่างแม่นยำและน่าทึ่งมาก เพียงแค่ยกกล้องขึ้นเล็งภาพเท่านั้น หากในภาพนั้นมีภาพ   ในหน้าบุคคล ระบบ fd จะเลือกกรอบโฟกัสที่ครอบคลุมใบหน้านั้นให้เองทันที ด้วยความเร็วในการทำงานสูงมาก แม้แต่ภาพถ่ายหรือภาพจากจอ TV ระบบ fd ก็ยังสามารถตรวจจับใบหน้าได้จึงมั่นใจได้ว่าภาพที่ได้จะมีการโฟกัสที่ถูกต้องอย่างที่ต้องการ และหากใช้ถ่ายภาพที่ไม่มีภาพใบหน้าของบุคคล ระบบ fd ก็จะไม่ทำงานโดยจะใช้การหาโฟกัสจากกรอบกลางแทน การหา   โฟกัสโดยรวมทำได้แม่นยำมาก และสามารถโฟกัสได้ดีแม้จะใช้งานในที่แสงน้อย ไม่ว่าจะเปิดระบบ fd หรือไม่ก็ตาม ผมได้มีโอกาสลองไปถ่ายภาพนักร้องบนเวทีที่แสงไม่สว่างเท่าใด ภาพทุกช็อตโฟกัสได้หมดและการทำงานได้เร็วอย่างน่าพอใจไม่ว่าผมจะเลือกวางตำแหน่ง ของกรอบโฟกัสกลางภาพหรือริมภาพก็ตาม (AF MODE แบบ AREA) การวัดแสงทำได้เที่ยงตรงในทุกโหมดวัดแสง WHITE BALANCE (WB) ถ่ายทอดสีได้ตรงตามจริง และเป็นไปอย่าง   ต้องการ เมื่อลองใช้ AUTO WB ภาพที่ได้โดยรวม ให้สีสันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และถูกต้อง เมื่อใช้แสงกับกลางวันทั้งกลางแจ้ง และในร่ม รวมทั้งให้สีที่ดีเมื่อใช้กับหลอดไฟประดิษฐ์แบบเดย์ไลท์ แต่จะมีสีอมเขียวเล็กน้อยเมื่อถ่ายภาพภายใต้แสงไฟฟลูออเรสเซนต์ คุณสมบัติเด่นอีกอย่างของ S6500 fd คือการปรับความไวแสงได้สูงถึง ISO3200 จากการถ่ายภาพที่มีความไวแสงนี้พบว่า ภาพที่ได้ให้สีสันได้ดี การเกิด NOICE มีบ้างเป็นเรื่องปกติ ของการใช้ ISO สูงมากขนาดนี้   แต่ NOICE ที่เกิดขึ้นต้องถือว่ามีน้อยกว่าที่คาดไว้มากทีเดียว ยิ่งหากใช้งาน ISO 1600 NOICE จะยิ่งลดลง และที่ ISO 800 NOISE มีน้อยมากแม้จะใช้ถ่ายภาพในที่มืดหรือค่อนข้างมืดก็ตามเรียกว่าที่ ISO 800 นี้ใช้งานได้เลย ส่วนที่ ISO 400 ลงมาถือว่า S 6500fd ตัวนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมภาพแทบไม่ปรากฏ NOICE ที่ ISO 400 และที่ ISO 200 กับ 100 นั้น ไม่สามารถสังเกตุเห็น NOICE ได้เลย แม้จะถ่ายภาพในที่แสงสว่างไม่มาก และใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่า 1 วินาทีก็   ตามเมื่อนำไฟล์ภาพที่ได้มาตรวจสอบความคมชัดบนจอคอมพิวเตอร์ขยายภาพที่ 100% ในโปรแกรม PHOTOSHOP พบว่าภาพที่ได้คมชัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก ตลอดช่วงซูม จาก 28-300 มม. ที่รูรับแสงกว้างสุดความคมชัดดีในจุดโฟกัส และจะดีมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้รูรับแสงที่ F/4-5.6 ที่ระยะโฟกัสใกล้ในโหมดมาโครและซุปเปอร์มาโครให้ความคมชัดและดีมากเมื่อใช้รูรับแสงกลางๆ ขึ้นไป คือตั้งแต่ F/4 - F/8 แต่จุดที่เด่นมากๆ ของกล้องรุ่นนี้คือ การถ่ายทอดสีสันที่   สวยงามสมจริงกับสีสันสดๆ ได้ถูกต้อง และเก็บรายละเอียดในส่วนไฮไลท์และชาโดว์ได้ดีมากๆ การเซ็นเซอร์แสงแฟลชทำได้อย่างแม่นยำทั้งในระยะการทำงานปกติ ของแฟลชในตัวและระยะใกล้แบบมาโครภาพส่วนมากได้รับแสงแฟลชพอดีและสามารถชดเชยแสงแฟลชในเมนูได้อีก +/- 2/3 สตอป เมื่อลองใช้แฟลชกับความไวแสง ISO 1600 และ ISO 3200 พบว่าการเซ็นเซอร์แสงแฟลชยังคงแม่นยำ เมื่อใช้ในระยะตั้งแต่ 1 เมตร ขึ้นไป ส่วนในระยะใกล้ ภาพจะสว่างไปราว 0.3   -0.5 สตอป หากเป็นการถ่ายภาพในระยะใกล้และใช้แฟลช แนะนำให้ใช้ ISO 100 ภาพจะได้แสงแฟลชที่พอดีกว่า การควบคุมและระบายความร้อนทำได้ดีมากๆ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่ำให้ความรู้สึกในการใช้พลังงานใกล้เคียงกล้อง D-SLR ช่วงซูม 28 - 300 มม. ที่มาพร้อมกับตัวกล้องถือว่าเป็นช่วงที่ดีมากใช้งานได้ครอบคลุม การถ่ายภาพตั้งแต่ภาพทิวทัศน์ ไปจนถึงภาพระยะไกล หากต้องการมุมภาพกว้างขึ้นก็สามารถใช้ CONVETSION LENS 0.8X ได้ (WL-   FXS6) ซึ่งจะให้ภาพมุมกว้างเป็น 22.4 มม. โดยที่ยังให้ความคมชัดที่ดี แต่ถ้าต้องการให้งานที่ช่วงนอร์มอลหรือเทเลโฟโต้แนะนำให้ถอด WL- FXS6 ออกก่อนทุกครั้ง สรุปโดยรวมต้องถือว่า S6500 fd ตัวนี้เป็นกล้องที่น่าใช้และครบเครื่องจริงๆ หากเทียบกับรุ่นก่อนๆ จุดที่เด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็คือ เลนส์ซูมช่วงมุมกว้างและความละเอียดที่มากกว่า จอ LCD ใหญ่กว่าและระบบ fd ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ได้ภาพบุคคลอยู่ในจุดโฟกัสทุกภาพโดยไม่จำเป็นต้อง RE-   COMPOSE หรือใช้วิธีล๊อกโฟกัสที่ขาดไปมีเพียงฮอทซูแฟลชภายนอกเท่านั้น อย่างไรก็ตามสามารถเพิ่มระยะการทำงานของแฟลชได้ถึง 5 สตอป จาก ISO 100 เป็นกล้องในซีรี่ส์นี้อีกรุ่น ที่แนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการกล้องคุณภาพ โหมดและฟังก์ชั่นการทำงานใกล้เคียงกล้อง D-SLR คุณภาพไฟล์ดี ช่วงเลนส์ครอบคลุมการถ่ายภาพทุกประเภท รับประกันได้ว่าไม่มีทางหาได้จากกล้องยี่ห้ออื่นๆ นอกจาก FINEPIX S6500 fx ตัวนี้เท่านั้น          


 


ราคา: 4,800 บาทต้องการ: ขาย
ติดต่อ: ยุทธอีเมล์: 
สภาพ: มือสอง จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โทรศัพย์: IP Address: 58.11.244.xx
มือถือ: 0872863698
ที่อยู่: BANGKOK



ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ

[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]