พระผงบัวผุด ปี 46 หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี
โดย ศักดิ์ ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 9 เม.ย. 2554.
ลูกศิษย์ที่เคารพรักศรัทธาสายนี้ มิควรพลาดครับ
พระผงบัวผุด ของ พระครูปทุมวรกิจ (ชำนาญ อุตตมปัญโญ)
วัดบางกุฎีทอง ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เช้าตรู่ของวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2542 หลังจากที่หลวงพ่อชำนาญทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในอ่างน้ำมนต์เนื้อดินเผาใบใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าแท่นบูชาพระในห้องส่วนตัวของท่าน ปรากฏมีดอกบัวหลวงสีขาวซึ่งยังตูมอยู่ลอยวนไปมาช้า ๆ อยู่ในน้ำมนต์จำนวน 3 ดอก
เมื่อลูกศิษย์และพระในวัดเรียนถามท่านถึงดอกบัวปริศนาทั้ง 3 ดอกนี้ว่ามาจากไหน ? เพราะปกติแล้วจะไม่มีใครเอาดอกไม้เข้าห้องส่วนตัวของหลวงพ่อ ยกเว้นแต่เอาธูปเทียนเข้าไปเท่านั้น และห้องนี้ก็ปิดล็อคตลอดโดยหลวงพ่อเองไม่มีใครเข้าไปได้ หากท่านไม่ยอมตอบ ได้แต่หัวเราะหึ ๆ แล้วก็ช้อนเอาดอกบัว 3 ดอกนี้มาใส่พานแล้ววางไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาอันเป็นสถานที่ท่านนั่งปลุกเสกพระเครื่อง
ทุกคนต่างสงสัยถึงที่มาของดอกบัวดังกล่าว จะว่าหลวงพ่อไปเอามาลอยเองก็ไม่ใช่วิสัยที่ท่านเคยทำ ถ้าท่านทำท่านก็ต้องบอก หากท่านไม่ได้ทำคนอื่นก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะเป็นห้องของท่าน กุญแจอยู่ที่ประคตเอวท่าน ใครจะลอบลักเข้าไปไม่ได้แน่นอน แล้วอยู่ดี ๆ ดอกบัวจะมาลอยอยู่ในอ่างน้ำมนต์ของท่านโดยก็ไม่ปรากฏตัวบุคคลว่า เป็นใครที่เอามาใส่ ? ใครเป็นเจ้าของ ? เป็นไปได้อย่างไร ?
ต่อมา เมื่อเห็นทุกคนฉงนใจกันมาก หลวงพ่อจึงพูดเปรย ๆ ขึ้นว่า...
“ดอกบัวนี้วิเศษนัก มาจากที่สูงสุด”
แสดงให้เห็นว่าท่าน "รู้" ว่าดอกบัวนี้มาอย่างไร แต่ท่านไม่ยอมพูด
สำหรับบล็อกแม่พิมพ์และมวลสารที่ใช้สร้างนั้น หลวงพ่อได้แกะบล็อกด้วยตนเองอย่างบรรจงแบบโบราณด้วยหินมีดโกน และท่านให้ใช้ผงดอกบัววิเศษที่เกิดเองในอ่างน้ำมนต์ทั้ง 3 ดอกนี้เป็นมวลสารหลัก โดยนำมาผสมกับผงพุทธคุณของท่านที่เก็บสะสมไว้ อาทิ ผงวิเศษของท่านเจ้าคุณรามัญมุนี, ผงวิเศษของหลวงปู่สุรินทร์, ผงวิเศษที่ท่านเขียน - ลบไว้ ซึ่งแรงมากจนต้องฝังไว้ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์, ผงเนียฮะวา, ผงอิทธิเจซ้อนรูป, ผงนะทั้ง 108 ยันต์ ตามตำราเก่าซึ่งต้องเสกแบบเดินหน้า 108 ถอยหลัง 108 ย้ายรูป 108, ปูนเสก, ยานัตถ์, ผงตะไบพระกริ่งรุ่นแรก และ เส้นเกศาของหลวงพ่อ
การสร้างทุกขั้นตอนตั้งแต่ นวดผง ตำผง ตลอดจนถึงการกดพิมพ์เป็นองค์พระนั้นล้วนทำกันเองภายในวัดโดยมีหลวงพ่อเป็นประธานและรู้เห็น ควบคุมอยู่ตลอด เมื่อสร้างพระชุดนี้เสร็จเรียบร้อยท่านก็ทำการปลุกเสกพระสำคัญพิมพ์รูปเหมือนบัวผุดนี้และขุนแผนบัวผุดนี้ด้วยตนเองอย่างที่เรียกว่า "เสกเดี่ยว" หลวงพ่อปลุกเสกในกุฏิของท่านทุกวันโดยท่านจะเลือกฤกษ์ดีที่สุดของวันในแต่ละวัน ท่านชอบพระพิมพ์นี้มาก ถึงกับออกปากว่า
“เล็กดีแต่ก็พริกขี้หนู เผ็ดร้องไม่ออกเชียวล่ะนี่”
 | |  | |