หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน
หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ศิลป์หน้ากระบี่ แกะจากเขี้ยวเสือ เนื้อเก่าถึงยุค ที่สำคัญใต้ฐานจารลายมือหลวงพ่อ "นะโมพุทธายะ" หนุมานที่ว่าบอกของแท้ ขายกันแพงๆกว่านี้บางทียังไม่มีจารเลยครับ ศิลป์นี้เป็นศิลป์ที่หายากเช่นกันครับ ได้จากคนที่เคยอยู่พื้นที่มาหลายสิบปีและท่านทันหลวง พ่อสุ่นด้วย แต่ปัจจุบันเจ้าของเดิมได้เสียแล้วอายุ 90 กว่าๆ ครับ
องค์นี้ผมมั่นใจและรับประกันว่าแท้และทันหลวงพ่อสุ่น ท่านปลุกเสก 100% หนุมานองค์นี้ผมได้เคยนำไปให้เซียนใหญ่หลงจู๊เครื่อง รางที่ท่านเป็นผู้ดูและคัดเครื่องรางให้ก ับท่านเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ให้ท่านช่วยดูให้แล้ว ยืนยันว่าแท้แน่นอน
คาถาหนุมานหลวงพ่อสุ่น นะโม 3 จบ และว่าคาถาดังนี้ นะ บังเพลิง โม บังกระบอก ยะ มิให้ออก อุดธัง อะโธ โธอุด พุทธา ทะโย สตรี สตรี นิสิงโห
ราคาพิเศษ แบ่งไปใช้ครับ 75,000.- เช็คราคาดูได้ครับ ขึ้นชื่อว่าของแท้ ทันท่าน ไม่มีที่ไหนยอมปล่อยเช่าถูกแบบนี้แน่ ส่วนใหญ่แสนขึ้นไปทั้งนั้นครับ และถ้าเช่าจากมือเซียน ราคาหลายแสนครับ ----------------------------------------- คมเลนส์ส่องพระ (เสาร์ที่ 29 มกราคม 2554) ** เครื่องราง ที่วงการนิยมกันมากอย่างหนึ่งคือ หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สร้างด้วยรากไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ไม้รัก ไม้พุด (คล้องเสียงกับคำว่า 'พุทธ') และที่หายาก คือ งาช้างแกะ ซึ่งเป็นฝีมือการแกะของ ช่างชาวจีน ที่ลอยเรืออยู่หน้าวัด โดยใช้มีดที่มีความคบกริบเป็นเครื่องมือในการแกะ เสร็จแล้วจะนำให้หลวงพ่อปลุกเสก และลงเหล็กจาร (บางตัว) ที่หลัง สะโพก หรือศีรษะ ด้วยอักขระขอม-มอญ เชื่อกันว่า อานุภาพความขลังดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และคงกระพัน เหนือสิ่งอื่นใด บางคนสะสม หนุมาน หลวงพ่อสุ่น ก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอานุภาพความขลัง แต่สะสมด้วยใจรักในด้าน งานศิลป์ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน เป็นฝีมือแกะทีละตัว (แฮนด์เมด) ที่มีอายุนับร้อยปี นับว่ามีความเก่าพอสมควร ------------------------------------------- ในแวดวงนักสะสมเครื่องรางของขลัง มักจะพูดกันติดปาก คล้องจองกันว่า เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น แสดงถึงความเก่งกล้าสามารถในการปลุกเสกเครื่องรางของ ขลังแต่ละชนิด ของแต่ละพระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญคาถาอาคมไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นเรื่อง หนุมาน ของพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าต้องยกให้ หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี เกาะเกร็ด เดิมทีไม่ได้เป็นเกาะ เป็นแผ่นดินที่ยื่นออกไปเหมือนแหลมจากพื้นแผ่นดินของ อำเภอปากเกร็ด ที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลอ้อมผ่านไปชื่อเดิมคือ บ้านแหลม ในสมัยแผ่นดิน พระเจ้าท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา เห็นว่าหากขุดคลองลัดตรงบ้านแหลมแล้ว ระยะทางจะสั้น เรือจะสัญจรไปมาได้สะดวก จึงโปรดให้ขุดคลองลัด เมื่อพ.ศ.๒๒๖๕ เรียกว่า คลองลัดเกร็ดน้อย โดยมีความกว้างเพียง ๖ วา เท่านั้น ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศ เซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ เลยเรียกชื่อแผ่นดินที่ถูกคลองขุดตัดขาดจากแผ่นดินให ญ่นี้ว่า เกาะศาลากุน ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ระบุในโฉนดชื่อว่า เกาะศาลากุน ตามชื่อ วัดศาลากุน ที่สร้างโดย เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) ตั้งแต่สมัยธนบุรี ต่อมาเมื่อตั้ง อ.ปากเกร็ด จึงเรียกเป็น เกาะเกร็ด วัดศาลากุน ตั้งอยู่เกือบกลางเกาะเกร็ด ท้องที่หมู่ ๓ บ้านเกาะศาลากุน การเดินทางไปยังวัดนี้ ถ้าหากข้ามเรือที่ท่าวัดกลางเกร็ด เมื่อขึ้นที่ท่าเกาะเกร็ด จะมีถนนไปถึงวัดนี้ได้ ระยะทางประมาณ ๑,๔๐๐ เมตร กล่าวกันว่าวัดนี้เป็นวัดเก่าเช่นกัน เดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เนื่องจากดินริมแม่น้ำงอกขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันนี้จึงอยู่เกือบกลางเกาะเกร็ด โบราณสถานของวัดล้วนสร้างขึ้นใหม่ คืออุโบสถลักษณะทรงโบราณ ๒ ชั้น ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ เจดีย์และกุฏิสงฆ์ และยังมีโบราณวัตถุเก่า เช่น โต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่ประดับมุก เครื่องแก้วเจียระไน และหีบศพประดับมุก "ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม" เป็นสมญานามที่คนในวงการพระเครื่องตั้งให้กับ หนุมาน หลวงปู่สุ่น นับเป็นสุดยอดของขลังหนึ่งในชุดเบญจภาคี เครื่องรางของขลังของวงการ นักสะสมใฝ่หาไว้มาครอบครองบูชาไม่แพ้ เขี้ยวเสือแกะ หลวงพ่อปาน โดยเฉพาะนักสะสมรุ่นใหม่ไฟแรง แพงไม่ว่า ขอให้แท้เป็นทุ่มเข้าสู้ทันที หลวงพ่อสุ่น เรียนวิชาปลุกเสกหนุมาน จากพระนาคทัศน์ คาถาหนุมาน คาถากำกับหนุมานให้ว่า "นะมัง เพลิง โมมังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธังโธอุด ธังอัด อะสังวิสุโรปุสะพูพะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห" อย่างไรตาม มีเรื่องเล่าว่า ในยุคสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ โดย คณะราษฎร ซึ่งนำโดย พ.อ.พระยาพหลพลหยุหเสนา กับคณะทหารและพลเรือนที่อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "คณะปฏิวัติ" ในครั้งนั้นท่านได้ไปหาหลวงพ่อสุ่น ทั้งนี้หลวงพ่อสุ่นให้หนุมานหน้าโขนมาตัวหนึ่งโดยให้ พกติดตัว พร้อมกับบอกในลักษณะที่ว่า ผ่านไปสักพักเรื่องเลวร้ายก็ผ่านไปด้วยดี ในที่สุดก็เป็นอย่างที่หลวงพ่อสุ่นพูด ภายหลัง พ.อ.พระยาพหลพลหยุหเสนา นำเรือที่เป็นพาหนะส่วนตัวถวายหวงพ่อสุ่น ปัจจุบันนี้ยังปรากฏว่ามีอยู่ จากนั้นพุทธคุณของหนุมานหลวงพ่อสุ่นก็เป็นที่ร่ำรือว ่ามีพุทธคุณเด่นทางคง กระพันชาตรี แคล้วคลาด สำหรับจำนวนการสร้างหนุมานหลวงพ่อสุ่นนั้น ลุงด้วง สุขทอง (เกิด พ.ศ.๒๔๖๑) บุตรชายของ นายปลิว สุขทอง อดีตมัคทายกวัดศาลากุน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับหลวงพ่อสุ่น ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างหนุมานของหลวงพ่อส ุ่นว่า หนุมานแกะจากไม้รากพุดซ้อน และงาช้างขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ช่างแกะชื่อ นายมี ไม่ทราบนามสกุล แกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่อง และไม่ทรงเครื่อง ตัวไม่ใหญ่โตมากนัก กว้างประมาณครึ่งนิ้ว สูงประมาณ ๑ นิ้วเศษ โดยมีการสร้างครั้งใหญ่ๆ อยู่ ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ จำนวนการสร้างไม่มากนัก น่าจะไม่เกิน ๑๐๐ ตัว แกะจากไม้รากพุดซ้อน เป็นหนุมานไม่ทรงเครื่อง ทำแจกฟรีในงานบุญต่างๆ ของวัดโดยไม่มีการจำหน่าย ครั้งที่ ๒ สร้างปลาย พ.ศ. ๒๔๗๐-พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยนำออกจ่ายแจกในงานทอดกฐินของวัดศาลากุน ใน พ.ศ.๒๔๗๒ หนุมานที่ทำในคราวนั้น มีทั้งแบบทรงเครื่องหน้าโขน และหนุมานหน้ากระบี่ไม่ทรงเครื่อง แกะจากไม้รากพุดซ้อน และงานช้าง จำนวนการสร้างประมาณ ๒๐๐ ตัว ญาติโยมทางกรุงเทพฯ ได้รับแจกไปจำนวนมาก เพราะเป็นเจ้าภาพในบุญทอดกฐินปีนั้น ลักษณะการแกะ แกะเป็นรูปหนุมานนั่งยองๆ จับเข่า อ้าปากเห็นลิ้นกับฟัน มีทั้งแบบทรงเครื่องหน้าโขน และหน้ากระบี่ไม่ทรงเครื่อง ทั้งนี้แบบทรงเครื่องดูสวยงามและอลังการมากกว่า แต่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะหนุมานของหลวงพ่อสุ่น มีของทำเลียนแบบจำนวนมาก ต้องพิจารณาจากความเก่าของงาและไม้ที่นำมาแกะ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ ชัดเจน คือหนุมานหลวงพ่อสุ่น ถ้าเป็นเนื้อไม้จะมีรอยร้าวและเนื้อไม้จะแห้ง ส่วนหนุมานเนื้องาแกะ เนื้อจะต้องแห้งเก่า แต่แฝงด้วยความฉ่ำ แบบเดียวกับงาแกะเนื้อหลวงพ่อเดิม อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อสุ่นไม่มีประวัติการเรียนอาคมจากพระเกจิอาจาร ย์ท่านใดไม่มีประวัติ แน่ชัด แต่ก็มีการสันนิษฐานว่า อาจจะเรียนมาจาก หลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง เพราะหลวงพ่อสุ่นกับหลวงพ่อกลิ่นเคยสนทนากันว่า "เมื่อร่ำเรียนวิชามาแล้ว ก็ต้องทำของแจกชาวบ้านบ้าง" โดยการสร้างหนุมานทั้ง ๒ ครั้ง หลวงพ่อสุ่นจะปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถ คาถาปลุกหนุมาน ผู้เคยใช้หนุมานหลวงพ่อสุ่น ต่างมีความเชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอำนาจ ประวัติหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ส่วนประวัติของหลวงพ่อสุ่น ไม่เป็นที่กระจ่างนัก เล่ากันว่าท่านชื่อ สุ่น นามสกุล ปานกล่ำ เป็นชาวปากเกร็ดโดยกำเนิด เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๓๕ เมื่อบวชแล้วได้ฉายาว่า จันทโชติ แปลว่า รุ่งเรืองดุจจันทร์เพ็ญ ไม่ปรากฏนามพระอุปัชฌาย์อาจารย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดศาลากุน ตั้งแต่หนุ่ม ปลูกต้นรัก และต้นพุดซ้อน ดูแลอย่างดี ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมภาร ด้วยการทำน้ำมนต์รดต้นไม้ทั้งสองเสมอมา เมื่อเป็นสมภารคลองวัด จึงให้ลูกศิษย์ขุดรากไม้รักและพุดซ้อนตากจนแห้ง ให้ช่างมีฝีมือแกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่องสวยงาม นอกจากนี้แล้ว หลวงพ่อสุ่นยังเป็นหนึ่งในพระคณาจาจารย์ผู้ลงอักขระบ นแผ่นทองแดงใช้เป็นมวล สารในการจัดสร้างเหรียญที่ระลึก วัดราชบพิธฯ ครั้งที่ ๔ (พ.ศ.๒๔๘๑) หลวงพ่อสุ่น เป็นสหธรรมิกของ หลวงพ่อกลิ่น วัดสะพานสูง โดยมีอายุมากกว่าหลวงพ่อกลิ่นประมาณ ๕ ปี เมื่อราว พ.ศ.๒๔๘๑-๒๔๘๒ หลวงพ่อสุ่นมรณภาพ สิริอายุประมาณ ๗๘ ปี ในวันประชุมเพลิงหลวงพ่อสุ่นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๙ นั้น หลวงพ่อกลิ่นมาเป็นเจ้าภาพด้วยตัวเอง หมึก ท่าพระจันทร์ ที่มา...คมชัดลึก
ราคา: | 75,000 | ต้องการ: | ขาย | ||
ติดต่อ: | กรกฤษณ์ สกุลเจริญ | อีเมล์: | |||
สภาพ: | มือสอง | จังหวัด: | กรุงเทพมหานคร | ||
โทรศัพย์: | 0859006125 | IP Address: | 202.176.99.xx | ||
มือถือ: | 0859006125 | ||||
ที่อยู่: | 104 ซอย ร.พ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า9 บุคคโล ธนบุรี กทม.10600 | ||||
คำค้น: | หนุมาน | วัดศาลากุน | หลวงพ่อสุ่น | หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรีเนื้องาแกะ องค์ใหญ่ | หนุมานเขี้ยวเสือหลวงพ่อสุ่น | เครื่องราง ของขลัง หลวง พ่อ สุ่ น | รอยจารหนุมานหลวงพ่อสุ่น | หนุมานหลวงพ่อสุ่นตัวใหญ่พิเศษสูง2นิ้ว เนื้องาหน้าโขน | หนุมานหลวงพ่อสุ่น จาร | หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี | |